โรคราสนิมขาวในดอกเบญจมาศ

โรคราสนิมขาวเป็นโรคที่เกิดในช่วงหน้าหนาว โดยส่วนมากจะเกิดทางภาคเหนือตอนบนที่มีอากาศหนาว อยากเตือนให้เกษตรกรผู้ปลูกดอกเบญจมาศได้เฝ้าระวังการระบาดของโรคราสนิมขาว เนื่องจากเป็นโรคที่รุนแรงมากในช่วงฤดูหนาว

“อาการเริ่มแรก” จะพบด้านบนใบมีจุดแผลสีเหลืองขนาดเล็ก ต่อมาแผลจะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ส่วนบริเวนด้านใต้ใบในตำแหน่งเดียวกันจะพบจุดสีขาวนวลที่เป็นเชื้อราสาเหตุของโรค ต่อมาจะขยายใหญ่ขึ้นเป็นจุดนูนกลมสีขาวอมชมพู เมื่อเจริญเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีขาวเกิดกระจายอยู่ทั่วทั้งใบ

โรคราสนิมขาวของเบญจมาศ (White Rust Disease of Chrysanthemum)
สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Puccinia horiana ลักษณะอาการแผลจุดสีเหลืองเขียว ขนาดประมาณ 5 มิลลิเมตรบนหลังใบบริเวณศูนย์กลางของจุดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเนื้อเยื่อตาย บนท้องใบพบกลุ่มของเชื้อรา (Pustules) เป็นตุ่มสีชมพู ขณะที่แผลจุดบนหลังใบไหม้แดด หลังจากนั้น Pustules เปลี่ยนเป็นสีขาวและผลิต Basidiospores ส่วนของพืชที่ถูกทำลายคือดอก ใบ ลำต้น โรคนี้กำลังระบาดรุนแรงมากในแหล่งปลูกไม้ดอกบนดอยอินทนนท์ซึ่งมีอากาศเย็นและความชื้นสูง สปอร์ของราซึ่งจับอยู่ที่ใต้ผิวใบจึงหลุดไปตามลมหรือน้ำที่ใช้รดได้ง่าย อาจจะติดไปกับอุปกรณ์เครื่องมือและวัสดุปลูก

“แนวทางในการป้องกันและแก้ไข”
1. ควรกำจัดวัชพืชในแปลงปลูกและบริเวนใกล้เคียง ตัดแต่งใบแก่ออก เพื่อให้ต้นโปร่งมีอากาศถ่ายเทสะดวกและเกษตรกรหมั่นสำรวจตรวจดูแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบโรคให้ตัดส่วนที่เป็นโรคนำไปทำลายนอกแปลงปลูก
2. ควรใช้กิ่งชำหรือต้นพันธุ์ที่ปราศจากโรคแช่ต้นพันธุ์ก่อนปลูกด้วยสารเคมี ปลูกระยะห่างพอควร หลีกเลี่ยงน้ำถูกใบ เด็ดใบที่เป็นโรคทิ้ง โดยการเผาทำลายซากพืชที่เป็นโรค
3. หากโรคยังคงระบาดรุนแรง ให้พ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช เฮกซะโคนาโซล 5% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ทีบูโคนาโซล 43% เอสซี อัตรา 20 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ไดฟีโนโคนาโซล+โพรพิโคนาโซล 15%+15% อีซี อัตรา 15 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นสารทุก 7 วัน

พื้นที่เกิดโรคระบาด เกษตรกรควรปลูกพืชชนิดอื่นหมุนเวียน
แต่ถ้ายังจะปลูกเบญจมาศอยู่อีก ควรปลูกให้มีระยะห่างพอควร เพื่อให้มีการระบายอากาศที่ดี…ฤดูปลูกถัดไป ควรใช้กิ่งชำหรือต้นพันธุ์ที่ปราศจากโรค หรือก่อนปลูกควรแช่กิ่งชำหรือต้นพันธุ์ ด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชแบบเดียวกับที่ใช้ฉีดพ่น โดยเลือกใช้ชนิดใดชนิดหนึ่งผสมน้ำในอัตราส่วนเดียวกัน แช่นานประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยป้องกันโรคนี้ได้.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *